ฤาษีทัศนาจร เล่มที่ ๑

93 พญากาเผือกจึงได้เล่าให้เด็กฟัง ถามเด็กและเด็กเป็นล่าม ว่าครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าครั้งที่ ยังคงดารงพระชนม์อยู่ และก็สมัยนั้นประทับอยู่ที่เมืองพาราณสี ตอนเช้าวันหนึ่ง พระองค์ทรง บาตรและจีวรแล้วก็เสด็จจากเมืองพาราณสีมาทางอากาศโดยพระลาพัง แล้วเที่ยวบิณฑบาตใน หมู่บ้านในดงแห่งหนึ่ง คนก็พากันเลื่อมใสและพากันถวายของแก่พระพุทธเจ้าเป็นอันมาก พระพุทธเจ้าทรงเทศนาโปรดตามสมควรแก่ฐานะให้คนทั้งหลายเหล่านั้นตั้งอยู่ในศีลห้าหรือ ไตรสรณาคมณ์ คาว่า ไตรสรณาคมณ์ก็คือว่านึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง และก็ตั้งอยู่ในศีล ๕ ประการ นี่พระเขาเทศน์กันนะ เขาว่าพระพุทธเจ้าไม่เคยเสด็จมาสู่ประเทศ ไทย แต่ความจริงนี่ไม่ใช่ประเทศไทย นี่เมืองหริภุญไชย คนสมัยนั้นเป็นคนไทย คนเจ๊ก หรือว่า เป็นคนแขก คนลาว คนมอญ เขาไม่ได้บอกท่านก็เทศน์ถูกเหมือนกัน ท่านเทศน์ตามอัธยาศัย ของท่าน ท่านลืมไปว่าองค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเป็นอัจฉริยะ ไม่ใช่บุคคลธรรมดา ลืมไปเสีย ชอบเอารอยเท้าไปวัดกับพระพุทธเจ้า มันถึงได้ลงอเวจีเป็นแถวๆ ไป ดีไม่ดีเวลามีชีวิตอยู่ เวลาใครเขาถวายสตางค์ ก็ไม่รับ ฉันเคร่ง รับไม่ได้หรอก มันเป็นอาบัติ แต่เวลาตายแล้วมีพินัยกรรมเป็นสิบๆ ล้าน มีทรัพย์สินต่างๆ มาก นี่คนเขาเคร่งน่ะมันเป็นอย่างนี้ คนที่ชอบเอารอยเท้าไปวัดกับรอยเท้าของพระพุทธเจ้าน่ะ โดยมากก็ไปอยู่กับเทวทัต เพราะว่า เขานับถือศาสนาเทวทัต นี่ตามตานานเขาบอกว่า องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคมาที่พระธาตุ หริภุญไชย มาเมืองหริภุญไชยในสมัยนั้น เมื่อพระองค์ทรงเทศน์ให้คนมีความเคารพในศีลห้า และก็ตั้งอยู่ในสรณาคมน์ เป็นชาวป่าซิ สมัยนั้นไม่ใช้รถใช้เรือนี่ เป็นชาวป่าชาวดง ประเทศไม่ เจริญ คนเข้าใจดี มีอารมณ์ประกอบไปด้วยธรรม มีเหตุมีผล แต่พอประเทศชาติเจริญขึ้นมามากๆ เหตุผลก็หายไป เพราะค่าครองชีพบังคับ มีรายการทุจริตคิดมิชอบอยู่ด้วยประการทั้งปวง จากนั้นเมื่อพระองค์ทรงเทศน์แล้วก็ทรงเสด็จออกจากหมู่บ้านนั้นมา ถึงสถานที่ตรงนี้ คือที่ที่ พระราชาพระเจ้าอาทิจจ์น่ะ สร้างส้วมไว้ พระองค์จึงได้ทรงวางบาตรไว้ตรงที่พื้นหิน และก็ทรง ฉันภัตตาหารที่ตรงนั้น นี่ไง เป็นที่ฉันอาหารของพระพุทธเจ้า ที่ตรงไหนรู้ไม้ ก็ตรงที่เขาสร้าง พระเจดีย์หริภุญไชยนั่นเอง และที่เรียกกันว่า พระธาตุหริภุญไชย ตรงนั้น นี่เป็นเมืองไทยหรือ เป็นเมืองเจ๊กก็ไม่ทราบ ฟังแล้วก็ฟังกันไป เขาเล่ามาอย่างงี้ก็เล่าไปอย่างงี้ คนบอกให้ฟังโกหก คนเล่านี่ก็โกหกด้วย แต่คนพูดให้ฟังไม่โกหก เขาพูดตามความเป็นจริง คนพูดก็พูดตามความ

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz