ฤาษีทัศนาจร เล่มที่ ๑

73 ห่มจีวรสีธรรมดาบ้าง คุยสนทนาปราศรัยกันแบบสบาย รู้สึกว่าสถานที่นี้เป็นปูชนียสถานจริงๆ ควรที่บรรดาท่านพุทธบริษัทจะกราบไหว้บูชา แต่ที่พูดอย่างนี้ ก็ขอได้โปรดท่านเจ้าของที่ โปรด อย่าคิดว่า ไม่ใช่จะคิดว่าจะเสือกไสไล่ส่งคนให้พ้นจากที่ของเราไป แต่ถ้าหากว่าตนทั้งหลาย ตั้งใจจะหาพระที่ควรแก่การบูชาละก็ ควรไป ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายตั้งใจจะไหว้ ยศถาบรรดาศักดิ์ละก็ อย่าไป เพราะว่าหลวงพ่อสิมนี้ เคยเป็นอดีตเจ้าอาวาสมาหลายตาแหน่ง และก็หนีคนไปหนีคนมา หนีมาอยู่จนกระทั่งถึงถ ้าผาปล่อง เป็นสถานที่ขึ้นมากที่สุด ไกล เหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ก็บรรดาท่านพุทธบริษัทก็พยายามติดตามไป แม้จะได้ไปอยู่ในป่าขนาดนี้ ก็ปรากฏว่ามีคนไปสร้างสถานที่ให้ โดยไม่ต้องออกปากเรี่ยไร อาคารสถานที่สวยงามน่า เลื่อมใส ศาลาก็สวย กุฎีก็มาก และก็ยังมีไม้อยู่เกลื่อนกลาดที่จะสร้างกุฎีเป็นที่อาศัยสาหรับนัก ปฏิบัติธรรม นี่เราจะเห็นได้ว่า พระที่บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา ถ้าวางโลกธรรมเสีย ปฏิบัติ ตามจริยาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน นั่นก็คือเรายึดกฎสามประการ ๑.อธิศีลสิกขา ปฏิบัติศีลให้บริสุทธิ์ ๒.อธิจิตสิกขา ทาฌานสมาบัติให้เกิด ๓.อธิปัญญาสิกขา ทาวิปัสสนาญาณให้ผ่องใส ทาใจให้หมดกิเลส มันจะหมดขนาดไหนก็ตาม จะเป็นความสุขใจของท่านพุทธบริษัทมาก ได้ชื่อว่าเราเป็น สาวกขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจริงๆ ถ้าหากเรายังปรารภโลกธรรม ติดในลาภ หวัง ความร ่ารวย อยากมียศถาบรรดาศักดิ์ อยากให้ชาวบ้านเขาสรรเสริญ มีความประสงค์ในความสุข สะสมทรัพย์ อยากมีชื่อเสียง อย่างนี้ไม่ใช่สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านบอกให้ละ แต่ว่าการบวชเป็นพระมาสะสม มันจะเป็นพระรื้อ ลองคิดกันดูให้ดี จะเป็นพระหรือว่าจะเป็นโจรกันแน่ พระพุทธเจ้าบอกว่าการบวชเข้ามานี่ ชาระ จิตให้บริสุทธิ์ วางโลกธรรมเสียให้หมด แต่ว่าเราประกาศตนเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสุคต คัดค้านคาสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เราเกาะโลกธรรมด้วยประการทั้งปวง ชาวโลกเขาชอบรวย เขาอยากจะรวย เราก็รวยบ้าง ชาวโลกเขาต้องการมียศถาบรรดาศักดิ์ เราก็มีบ้าง ชาวโลกเขา ต้องการสรรเสริญเยินยอ เราก็ต้องการบ้าง ชาวโลกเขาอิ่มหนาสาราญไปด้วยกามสุข ด้วยความ

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz