ฤาษีทัศนาจร เล่มที่ ๑

62 เสร็จ องค์สมเด็จบรมสุคตก็ตรัสว่าคนนั้นสมัยนั้นมาเกิดเป็นชาตินี้ มาเกิดเป็นคนนี้ คนโน้นชาติ โน้นเวลานี้เกิดมาชาตินี้ คนนั้นคนสาคัญ อหังเอวะ คือ ตถาคตเอง แล้วก็บริษัททั้งหลายมาเกิด เป็นพุทธบริษัทสมัยนี้ นี่องค์สมเด็จพระชินสีห์แสดงว่าคนที่จะมาพบกันพูดกันรู้เรื่องนี่ต้องพบ กันมาเป็นอสงขัยๆ กัป ร่วมเรียงเคียงหมอน นี่อย่าถือว่าเป็นคู่สามีภรรยากันน่ะ ว่าร่วมสุขร่วม ทุกข์ร่วมประกอบกิจการงานกันมาตลอดเวลา มาคราวนี้ก็เหมือนกัน ก่อนที่จะออกเดินทางท่าน พ่อมาบอกว่า แพทย์หญิงวีวรรณ คานวณกิจ นี่มันน้องสาวนะ แล้วก็มีอีกหลายคนที่เป็นน้อง มี หลายคนเป็นหลาน มีหลายคนเป็นญาติ มีหลายคนที่เป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตาย รวมความว่าคน ที่สนิทสนมกันทั้งหมดไม่ใช่ใคร เป็นคนร่วมเป็นร่วมตาย ร่วมสุขร่วมทุกข์กันมานั่นเอง และ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกาลใดที่ท่านเกิด ตัวท่านเองมันจะเป็นพี่ชายใหญ่ และก็เลี้ยงน้องทุกคน ด้วยความหวังดี มีเมตตาในการสงเคราะห์ และน้องของท่านทุกคน ท่านจะอุ้มเข้าเอว น้องก็ไม่ ยอม ไม่ว่าน้องผู้หญิงผู้ชาย จะอุ้มประคองไว้ที่อก น้องก็ไม่ชอบใจ น้องจะต้องขึ้นบ่าและน้อง จะต้องขึ้นคอ และในที่สุดน้องเป็นที่รักก็จะต้องใช้หัวของพี่เป็นกลอง เอามือจับผมบ้าง แล้วก็ เอามือสองมือกาปั้นใช้เป็นที่ตีหัวพี่เล่นเป็นกลองบ้าง เจ้าพี่ก็เลยเต้นเป็นจังหวะให้น้องสนุก นี่ เป็นที่รื่นเริงของพี่ เป็นที่ชอบใจเห็นว่าน้องสบายใจ ท่านก็เลยบอกว่าบรรดาน้องๆ ทั้งหลายที่ ปรากฏเกิดขึ้นมาในชาตินี้ ที่พบกัน จึงเป็นน้องที่น่ารัก พูดง่ายเข้าใจง่าย มีความเข้าใจกันดี เพราะว่าความสัมพันธ์ดีเกิดมา และอาศัยความเมตตาปรานีเคยสงเคราะห์ ตอนนี้เจ้ารถสองคันที่ เขาสร้างไว้ เขาบอกเพื่อให้ท่านไว้ใช้นี่ ถ้าไม่สั่งใช้เขาก็ต่อว่าเอง แต่ความจริงจะสั่งใช้บ่อยๆ ก็ เกรงใจ เพราะ ๑. รถจะต้องสึกหรอ ๒. ค่าใช้จ่ายในรถ ๓. คนขับรถ มันมีความลาบากใจ แต่ว่าเขาก็ต่อว่าเอา ว่าทาไมไม่เรียกใช้รถสักที นี่ท่านพ่อมาบอกว่า เป็น ความดีของน้อง น้องเขาปรารถนาจะสงเคราะห์ แล้วก็ใช้เขาบ้างซิตามสมควร ก็เลยบอกว่าใช้ ทาไมจะไม่ใช้ แต่ว่าเรียกใช้บ่อยๆ ก็สงสารน้องน่ะซิ แล้วก็มีน้องอีกหลายน้องด้วยกัน เยอะแยะ เพราะมันหลายชาติ หลายสมัย ไม่ใช่เกิดคราวเดียวแล้วจะมีน้องหลายๆ คน เพราะว่าท่านพ่อ

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz