ฤาษีทัศนาจร เล่มที่ ๑

171 พระธาตุหรืออะไรอย่างอื่น แต่ว่าเวลานั้นเขาไม่ได้ถอด เพราะว่าพระพุทธรูปนี่องค์ใหม่ โมฬี ใหม่ แต่ปรากฏว่าพระโมฬี คือเปลวผมมาวางอยู่ที่ตัก แล้วก็มีห่อผ้าขาววางอยู่เหนือพระเศียร พระพุทธรูปองค์นั้นแทนโมฬี เมื่อลงมาดูเห็นเป็นพระบรมธาตุ ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง จึงเอาใส่ไว้ใน โกฐงา แล้วก็ประดิษฐานไว้เหนือเศียรพระพุทธรูป ความลับเรื่องพระบรมธาตุยังคงเป็น ความลับอยู่ตลอดมา ยังปกปิดกันไว้ แสดงว่าเห็นพระบรมธาตุแล้วก็ปิด กลัวใครจะมาขโมย เจ้า อาวาสของวัดนี้ล่วงไปอีกหลายองค์ จนกระทั่งถึงพระมหาสีระปัญโญมาเป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. เท่าไรไม่ได้บอก ก็มีพระรูปหนึ่ง นี่พระสงฆ์นะ ตะกี้จะไปลงพระพุทธเจ้าแล้ว มีพระสงฆ์รูป หนึ่งมีชื่อว่า พระมหาพุทธญาณโณ นี่น่ากลัวจะเป็นฉายา นี่เป็นภาษาแขก ได้บาเพ็ญสมณะ ธรรมอยู่ในป่า ในป่าหลั่ง ห..ล..ลิง ไม้หันอากาศ ไม้เอก ง.. อ้อ ป่าฟ้าหลั่ง ขอโทษ ไม่ใช่ฝรั่งนะ ไม่ใช่ป่าฝรั่ง ป่าฟ้าหลั่ง ฟ..ฟัน ไม้โทสระอา แล้วก็ ห..หีบ ล..ลิง ไม้หันอากาศ ไม้เอก แล้วตัว ง ป่าฟ้าหลั่ง ในเมืองพุกาม อ๋อ เป็นพวกพม่านี่ ได้ตานานพระธาตุมาก็เข้าใจว่าพระบรมธาตุ จอมทอง แต่พระบรมธาตุนี่จอมทองนี่ตรงตามตานาน จึงได้สั่งให้รพะอานันทะเถระ กับตาผ้า ขาวมาวัดศรีจอมทอง อานันทะเถระนี่เป็นพระทีหลัง ไม่ใช่พระอานนท์ เมื่อมาถึงก็อธิษฐาน ขอให้พระธาตุจอมทองแสดงปาฏิหารย์ พระบรมธาตุก็แสดงปาฏิหารย์ให้ปรากฏ จากนั้นพระ มหาสีระปัญโญ เจ้าอาวาส จึงเอาพระบรมธาตุที่เศียรพระพุทธรูปในวิหารมาให้ดู พระอานันทะ เถระเห็นเป็นพระบรมธาตุที่แท้จริง จึงนาความไปบอกพระมหาพุทธญาณโณ พระมหาพุทธ ญาณโณก็เข้าไปทูลพระเจ้ารตนราชหรือว่าพระเมืองแก้ว ผู้ครองเมืองเชียงใหม่ในขณะนั้น ให้ พระเจ้ารตนราชทรงพระปรีดาปราโมทย์ จึงได้โปรดให้สร้างวิหาร แล้วปราสาทเป็นที่พระดิษ ฐานพระบรมธาตุ พระบรมธาตุจึงอยู่ที่วัดศรีจอมทองและที่ปราสาทแห่งนี้ตลอดมาจนเท่าทุก วันนี้ แหม เขาเล่ามันคล่อกๆ แคล่กๆ เต็มที เป็นอันว่าเรื่องของพระธาตุจอมทองนี่ ล่อเสียเหนื่อย เลย ว่ากันนานหนักหนากว่าจะจบ ที่เล่ามาอย่างนี้ก็เพื่อบรรดาท่านพุทธบริษัท หรือท่านลูกหลานที่รัก ได้รับทราบความ เป็นมาของพระพุทธศาสนากับประเทศไทยว่ามีความสัมพันธ์กันยังไง ที่นักปราชญ์ทั้งหลาย ท่านบอกว่าประเทศไทยกับพระพุทธศาสนาไม่พบกันมาในกาลก่อน อันนี้เป็นความจริง