ฤาษีทัศนาจร เล่มที่ ๑

134 แปลเป็นใจความว่า ข้าพเจ้าขอรับผ้ากาสาวพัสตร์เพื่อทาให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน เวลานี้การ บรรพชาถูกตัดเอาบาลีข้อนี้ทิ้งไปสาหรับบุคคลบางคณะ แล้วบางคณะก็ยังใช้อยู่ แต่ว่าลืมศาสนา ของสมเด็จพระบรมครู เมื่อเวลาที่บวชเข้ามา มุ่งเอาแต่เพียงว่าทายังไงหนอ เราจะมีลาภสักการะ มาก ทายังไงเราจะได้มียศถาบรรดาศักดิ์เป็นพระครู เป็นเจ้าคุณ เป็นสมเด็จ เป็นอะไรต่ออะไร ตามๆ กัน ทายังไงเราจะอยู่ในเกณฑ์ได้รับการสรรเสริญเยินยอจากบรรดาพุทธบริษัท แล้วก็ทา ยังไงเราจะเป็นผู้มีความสุขในทรัพย์สินต่างๆ หรือว่าในการที่ได้มาจากกามารมณ์ โดยนิยม เรียกว่าติดโลกเป็นสาคัญ ให้ชาวโลกสรรเสริญ เอาแบบนี้มันเป็นอารมณ์เดิมของคนที่บวชเข้า มาในพระพุทธศาสนา ถ้าจะทาจิตให้บริสุทธิ์ผุดผ่องจริงๆ มันต้องค่อยๆ เคาะกันไป บรรดาท่าน พุทธบริษัททั้งหลาย พระที่บวชเข้ามาในศาสนาขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาก็อย่า เกณฑ์ว่าให้เท่ากันเสมอไป บางคนที่มีวาสนาบารมีใหญ่ คือมีกาลังใจดี มีกาลังใจเด็ดขาด ยึดถือ คาสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยเฉพาะ ว่าเป็นพระสงฆ์ ที่ควรแก่การไหว้การบูชาได้ง่าย แต่ท่านผู้ใดที่มีกาลังใจอ่อน โลกธรรมสามารถครอบงาจิตใจได้ ท่านผู้นั้นก็ยังเป็นพระได้นานหน่อย หมายความว่ากว่าจะเป็นพระที่บริสุทธิ์ได้ก็นานหน่อย ต้อง คอยเวลา ฉะนั้นขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้าและลูกหลานที่รัก ถ้าเห็นพระ แล้วก็นึกถึง ข้อนี้ไว้บ้างว่าท่านอาจจะตั้งใจดี แต่ว่าปฏิปทาหรือกาลังใจที่ปฏิบัตินี่มันยังไม่ เข้าถึงจุดที่สุดของพระพุทธศาสนา ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นยังไม่ละวิริยะ อุตสาหะ คือ ความเพียร ความบากบั่น ก็ควรจะให้อภัยแก่ท่านไว้เสียก่อน จงอย่าประณามว่าสาวกขององค์ สมเด็จพระชินวรเลวมากเกินไป ความจริง ทุกท่านเมื่อบวชเข้ามาแล้วก็ตั้งใจดี เว้นไว้แต่ สิ่งแวดล้อมเท่านั้นแหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท อย่างเวลานี้สิ่งแวดล้อมบังคับ ทาให้จิตใจของ พระกาเริบไปเดินขบวนกันได้ แล้วมีบุคคลทั้งหลายมาเดินขบวนโจมตี พระเถระ พระเถระ พระผู้ใหญ่ที่ลงโทษพระเดินขบวน แล้วเขาบอกว่าเขาเป็นสมาคมส่งเสริมพุทธศาสนา นั่นเป็น เรื่องของกิเลสที่เข้ามาเบียดบังใจ ที่ทาไปก็เพราะความหวังดี แต่ว่าการทานั้นมันไม่ตรงกับความ ดี มันไปตรงกับความอัปรีย์ของกิเลสเข้า เลยเป็นเหตุให้สะเทือนใจบรรดาท่านพุทธบริษัท

RkJQdWJsaXNoZXIy NzAxNDYz